ลักทรัพย์กับฉ้อโกงต่างกันอย่างไร
ลักทรัพย์กับฉ้อโกงอย่างไร
มาตรา 334 ผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินหกหมื่นบาท
มาตรา 341 ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
1 การลักทรัพย์เป็นการเอกทรัพย์ของผู้อื่นไปโดยพลการ โดยเจ้าของหรือผู้ครอบครองไม่ยินยอม แต่ฉ้อโกงเป็นหลอกลวงให้ได้ทรัพย์มา โดยเจ้าของของหรือผู้ครอบครองส่งมอบให้จากการหลอกลวง
- การเอาป้ายสินค้าออก แล้วติดราคาที่ต่ำกว่า เป็นความผิดฐานฉ้อโกง ฏีกาที่ 6892/2542
- การเอาสินค้าอื่นใส่กล่อง แล้วไปชำระราคา เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ เท่ากับพนักงานซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ขายมิได้มีเจตนา ส่งมอบให้ จึงผิดฐานลักทรัพย์
- หลอกขี้ม้า แล้วขี่ม้าไปเลย ผิดฐานลักทรัพย์
- นำรถบรรทุกไปรับจ้างบรรทุกถั่วเขียว แล้วเอาถั่วไปเลย ย่อมผิดฐานลักทรัพย์
2 ลักทรัพย์ต้องเป็นวัตถุมีรูปร่างแต่ฉ้อโกง เป็นทรัพย์สินมีรูปร่างหรือไม่ก็ได้
3 ลัทรัพย์ยอมความไม่ได้ แต่ฉ้อโกงยอมความได้
ปรึกษากฎหมายเรื่องลักทรัพย์หรือฉ้อโกงโทร 0838843287