กรณี เจ้าหนี้มีประกัน เป็นไปตามมาตรา 10 (ภายใต้บังคับมาตรา 9)
1. มิได้เป็นผู้ต้องห้าม มิให้บังคับการชำระหนี้เอาแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้เกินกว่าตัวทรัพย์ที่เป็นหลักประกัน และ
2. กล่าวในฟ้องว่า ถ้าลูกหนี้ล้มละลายแล้ว จะยอมสละหลักประกันเพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้ทั้งหลาย หรือตีราคาหลักประกันมาในฟ้อง ซึ่งเมื่อหักกับจำนวนหนี้ของตนแล้ว เงินยังขาดอยู่สำหรับลูกหนี้ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 1,000,000 บาท หรือลูกหนี้ซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 2,000,000 บาท
การยื่นคำฟ้องหรือคำร้องขอ
1. ยื่นคำฟ้องหรือคำร้องขอต่อศาลล้มละลายกลาง
2.ในระหว่างที่ศาลล้มละลายภาคยังมิได้เปิดทำการในท้องที่ใด ให้ยื่นต่อศาลจังหวัดซึ่งลูกหนี้มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลหรือประกอบธุรกิจอยู่ในเขต
ขั้นตอนการดำเนินคดีหลังจากลูกหนี้ถูกฟ้องล้มละลาย
1. ศาลต้องพิจารณาให้ได้ความจริงว่า ลูกหนี้มีคุณสมบัติครบองค์ประกอบที่จะถูกฟ้องคดีล้มละลายหรือไม่
· ถ้าเห็นว่าครบ ศาลจะมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาด
· หากคุณสมบัติไม่ครบองค์ประกอบ หรือ ลูกหนี้นำสืบได้ว่า อาจชำระหนี้ได้ทั้งหมดหรือมีเหตุอื่นที่ไม่ควร
ให้ลูกหนี้ล้มละลาย ศาลจะยกฟ้องทันที (มาตรา 14)
2. ระหว่างการพิจารณาคำฟ้องของเจ้าหนี้และก่อนศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ลูกหนี้อาจมีพฤติกรรมไม่น่าวางใจในการโยกย้ายทรัพย์สินไป เจ้าหนี้มีสิทธิยื่นคำขอฝ่ายเดียวโดยทำเป็นคำร้องขอให้พิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ชั่วคราวได้ ซึ่งศาลจะทำการไต่สวนโดยทันที เมื่อเห็นว่าคดีมีมูล จะมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว
3. เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะเข้าไปดูแล ควบคุม กิจการหรือทรัพย์สิน
หรือสิทธิต่างๆแทนลูกหนี้ทันที รวมทั้งการดำเนินคดีแพ่ง การฟ้องร้อง ต่อสู้คดี ประนีประนอมยอมความเกี่ยวกับ
ทรัพย์สินของลูกหนี้ด้วย โดยลูกหนี้ต้องส่งมอบทรัพย์สิน เอกสารต่างๆเกี่ยวกับทรัพย์สินและกิจการของลูกหนี้
4. เจ้าหนี้อื่นอาจแจ้งขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายร่วมด้วยตามประกาศคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดซึ่งศาลจะมีกำหนดเวลาไว้
5. เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะพิจารณาคำขอรับชำระหนี้ของบรรดาเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาว่า ผู้ใดมีสิทธิในการเข้าเฉลี่ยรับคืนหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ตามกฎหมาย จากนั้นจึงเรียกประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรก เพื่อปรึกษาว่า ควรยอมรับคำขอประนอนหนี้ของลูกหนี้ (กรณีลูกหนี้ยื่นเรื่องขอประนอมหนี้) หรือ ควรให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย รวมทั้งวิธีจัดการทรัพย์สินด้วย
6. ศาลจะทำการไต่สวนลูกหนี้โดยเปิดเผย เพื่อทราบฐานะทางการเงิน เหตุผลที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว ความประพฤติ จากนั้นจึงมีการพิจารณาคำขอประนอมหนี้ของลูกหนี้ตามรายงานของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กับความเห็นของที่ประชุมเจ้าหนี้ว่าควรเห็นชอบกับการประนอมหนี้หรือไม่
7. หลังจากศาลพิจารณาเห็นชอบกับการประนอมหนี้ซึ่งที่ประชุมเจ้าหนี้ยอมรับแล้ว จะเริ่มกระบวนการจัดการทรัพย์สินตามข้อตกลงนั้นทันที หากลูกหนี้บิดพลิ้ว ไม่ยอมชำระหนี้ตามที่ตกลงกันในการประนอมหนี้ หรือ ทำการถ่วงเวลาโดยไม่มีเหตุอันควร หรือ มีเจตนาทุจริต เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานหรือเจ้าหนี้คนใด ย่อมมีคำขอโดยทำเป็นคำร้องศาลมีอำนาจยกเลิกการประนอมหนี้ และพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายได้เช่นกัน
ผลหลังจากการเป็นบุคคลล้มละลาย
1. ลูกหนี้ต้องขอให้เจ้าพนักงานกำหนดเงินเลี้ยงชีพและหากมีรายได้ในอนาคต ต้องนำส่งให้เจ้าพนักงาน-
พิทักษ์ทรัพย์เพื่อนำไปเฉลี่ยคืนแก่เจ้าหนี้
2. การจัดการทรัพย์สินของลูกหนี้จะต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก่อน
3. ลูกหนี้ออกไปนอกราชอาณาจักรไม่ได้ เว้นแต่ศาลหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อนุญาตเป็นหนังสือ
วิธีพ้นจากการเป็นบุคคลล้มลาย
1. การประนอมหนี้ได้รับความเห็นชอบและปฏิบัติตามข้อตกลงครบถ้วน
2. ศาลยกเลิกการล้มละลาย เมื่อมีเหตุตามมาตรา 135 เช่น หนี้สินได้รับการชำระเต็มจำนวนแล้ว หรือ
หลังจากการแบ่งทรัพย์ครั้งสุดท้ายหรือไม่มีทรัพย์จะแบ่งแล้ว ต่อแต่นั้นมาภายในสิบปีก็ไม่อาจรวบรวมทรัพย์สิน
ได้อีกและไม่มีเจ้าหนี้ขอให้รวบรวมทรัพย์สินของบุคคลล้มละลายอีก หรือ เจ้าหนี้ไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าพนักงาน-พิทักษ์ทรัพย์ เป็นต้น
3. ศาลมีคำสั่งปลดจากล้มละลาย
4. ลูกหนี้พ้นจากการเป็นบุคคลล้มละลายเมื่อครบสามปีนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย
ใช้กับกรณีเป็นบุคคลธรรมดาและหนี้อันเป็นมูลเหตุที่ฟ้องล้มละลายไม่มีลักษณะเป็นการทุจริต